น้ำพุ เทรวี่ (Trevi Fountain)
เป็นลานน้ำพุและอนุสรณสถานที่จัดได้ว่าสวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยนอกจากในเรื่องของความสวยงามแล้วที่นี่ยังมีเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อเกี่ยวกับการโยนเหรียญอธิษฐานที่เป็นเสน่ห์ให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมกันอีกด้วย
น้ำพุ Trevi เป็นน้ำพุแบบบาโรกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโรม
โดยมีขนาดความสูงถึง 85 ฟุต และความกว้างถึง 65 ฟุต
น้ำพุแห่งนี้ตั้งอยู่บนทางสามแพร่งโดยเป็นจุดบรรจบกันของ Acqua Vergine,
Aqua Virgo และสะพานส่งน้ำของโรมันโบราณ โดยน้ำพุที่เห็นกันในปัจจุบันนั้นได้เริ่มก่อสร้างขึ้นในปี
ค.ศ. 1732 โดยการออกแบบของนิโคลา ซาลวิ แต่ซาลวินั้นได้เสียชีวิตลงในปี 1751
หลังจากที่น้ำพุสร้างเสร็จไปเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น
น้ำพุได้ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 1762 ด้วยฝีมือของโจวานนิ เปาโล ปานนินิ ผู้ที่สร้าง
ทริเวีย สาวพรหมจารีขึ้นมาแทนที่อุปมานิทัศน์ที่วางไว้แต่เดิม
โดยน้ำพุได้เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์หลังจากการติดตั้งประติมากรรมโอเชียนัส
หรือเทพเจ้าเนปจูนเทพแห่งน้ำ ของปิเอโตร บรัคซิ ไว้ในบริเวณช่องกลางน้ำพุ
น้ำพุแห่งนี้นั้นสวยงามด้วยรูปปั้นที่มีความหลากหลายรูปแบบและเปี่ยมไปด้วยความหมาย
ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นเทพเนปจูนขี่ม้าติดปีกที่บริเวณส่วนกลางของน้ำพุที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ที่ขนาบข้างด้วยไททันเทพครึ่งคนครึ่งปลา
ที่ทั้ง 2 นั้นได้ควบม้าที่มีลักษณะแตกต่างกันโดยตัวนึงนั้นดูเชื่อง
แต่อีกตัวกลับดูพยศอันเปรียบเสมือนท้องทะเลที่ไม่มีความแน่นอน
สามารถสงบราบเรียบสวยงามและเปลี่ยนเป็นทะเลที่บ้าคลั่งน่ากลัวได้เพียงเสี้ยวนาทีนั่นเอง
น้ำพุแห่งนี้นั้นยามกลางวันที่มีแสงอาทิตย์สาดส่องจะสวยงามสดใส
ดูมีชีวิตชีวาส่วนในยามค่ำคืนที่ปกคลุมด้วยความมืด
และมีแสงของหลอดไฟบริเวณน้ำพุร่วมกับแสงจันทร์ก็จะดูงดงาม ลึกลับ
น่าหลงใหลเป็นเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป
นอกจากในเรื่องของประติมากรรมอันงดงามแล้ว
อีกสิ่งหนึ่งที่ขึ้นชื่อและเป็นเอกลักษณ์ให้นักท่องเที่ยวมาเยือนที่น้ำพุแห่งนี้คือการโยนเหรียญอธิษฐานนั่นเอง
โดยตามธรรมเนียมนั้นสามารถใช้เหรียญสกุลเงินใดก็ได้ จากนั้นอธิษฐานขอให้ได้กลับมาที่กรุงโรมอีกครั้งก่อนที่จะหันหลังแล้วโยนเหรียญข้ามไหล่ซ้ายให้เหรียญหล่นลงไปในน้ำพุให้ได้
หากเหรียญหล่นไปใต้น้ำพุนั้นเชื่อกันว่าจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้งนั่นเอง
ความเชื่อนี้เป็นธรรมเนียมที่เหล่านักท่องเที่ยวให้ความนิยมกันเป็นอย่างมาก
โดยในแต่ละวันนั้นมีผู้โยนเหรียญลงไปในบ่อน้ำพุมากราว 3,000 ยูโรเลยทีเดียว
ซึ่งเงินในส่วนนี้นั้นนำไปบำรุงซุปเปอร์มาร์เก็ตสำหรับช่วยเหลือผู้ยากจนในกรุงโรม
แต่บางครั้งก็ยังมีคนมาขโมยเงินในส่วนนี้อยู่เสมอ
ค่าเข้าชม:
ค่าเข้าชม:
ฟรี
เวลาเปิด-ปิด: สามารถเข้าชมในบริเวณลานน้ำพุได้ทุกวัน และเข้าชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยในช่วงกลางวันและกลางคืนนั้นก็จะมีบรรยากาศความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป